Get a 10% discount on HYA X SERUM with any order over ฿1000 by using the code EXOSKINFORYOU at checkout!
Get a 10% discount on HYA X SERUM with any order over ฿1000 by using the code EXOSKINFORYOU at checkout!
หลายคนมักเข้าใจผิดว่า “ผิวแห้ง” กับ “ผิวขาดน้ำ” คือ ปัญหาผิวอย่างเดียวกัน แต่จริงๆ แล้ว สองปัญหานี้มีความแตกต่างกัน ผิวแห้ง หมายถึง สภาพผิวที่ขาดน้ำมันหล่อเลี้ยง ส่วน ผิวขาดน้ำ คือ ภาวะที่ผิวขาดความชุ่มชื้น ซึ่งเกิดขึ้นได้กับทุกสภาพผิว แม้แต่ผิวมัน มาสำรวจตัวเองกันดีกว่าว่า คุณกำลังเผชิญกับ “ผิวขาดน้ำ” อยู่หรือเปล่า?
1. ผิวไม่เรียบเนียน รูขุมขนกว้าง
เมื่อผิวขาดน้ำ ผิวจะสูญเสียความชุ่มชื้น ส่งผลให้ผิวไม่เรียบเนียน สัมผัสแล้วรู้สึกสาก ๆ ไม่เนียนลื่นเหมือนผิวที่ได้รับการเติมน้ำอย่างเพียงพอ นอกจากนี้ รูขุมขนยังดูชัดเจนขึ้นด้วย โดยเฉพาะบริเวณข้างแก้ม เนื่องจากผิวบริเวณนั้นขาดความยืดหยุ่นนั่นเอง
2. ผิวหย่อนคล้อย ไม่สดใส
ผิวที่ขาดน้ำจะสูญเสียความยืดหยุ่น ทำให้ผิวดูหย่อนคล้อย ไม่เต่งตึงเหมือนผิวที่ได้รับน้ำอย่างเพียงพอ ทำให้ผิวดูไม่เปล่งปลั่ง ไม่สดใส หมองคล้ำ และมักประสบปัญหาแต่งหน้าไม่ค่อยติดทน เพราะผิวขาดความชุ่มชื้น ทำให้เครื่องสำอางไม่สามารถยึดเกาะบนผิวได้ดีเท่าผิวที่เรียบเนียน
3. แต่งหน้าไม่ค่อยติด
หากมีปัญหาเวลาแต่งหน้าแล้วรู้สึกว่ารองพื้นหรือแป้งเป็นคราบ ไม่เรียบเนียน และไม่ติดทน นั่นอาจเป็นสัญญาณของผิวขาดน้ำ เพราะเมื่อผิวของเราขาดน้ำ ผิวจะพยายามดึงความชุ่มชื้นจากทุกแหล่ง รวมถึงเครื่องสำอางที่เราทาลงไปบนหน้าด้วย จึงส่งผลให้เครื่องสำอางไม่สามารถเซ็ตตัวบนผิวได้ดี และเกิดเป็นคราบ
4. ผิวอ่อนแอ แพ้ง่าย
เมื่อผิวขาดน้ำ เกราะป้องกันผิว หรือ Skin Barrier จะอ่อนแอลง เสมือนปราการที่ปกป้องผิวชั้นนอกสุดถูกทำลาย ทำให้ผิวไวต่อสิ่งกระตุ้นภายนอก เช่น มลภาวะ ฝุ่น ควัน หรือแม้แต่ แสงแดด ส่งผลให้เกิดการระคายเคือง มีอาการแสบ แดง และคันได้ง่าย
5. ริ้วรอยเล็ก ๆ มาเยือน
ผิวที่ขาดน้ำจะสูญเสียความยืดหยุ่น คล้ายกับผลไม้ที่เหี่ยวนั่นเอง ทำให้ผิวเกิดริ้วรอยเล็กๆ หรือริ้วรอยก่อนวัยได้ง่าย โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตาซึ่งเป็นบริเวณผิวที่บอบบาง หรือะร่องแก้ม ซึ่งเป็นจุดที่เห็นริ้วรอยได้ชัดเจน
การเติมน้ำให้ผิวอย่างล้ำลึกเป็นสิ่งสำคัญในการแก้ปัญหาผิวขาดน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ที่มีส่วนผสมของ ไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid) ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้อย่างล้ำลึก “เซรั่มไฮยาลูรอนจึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ตอบโจทย์ ด้วยเนื้อสัมผัสที่บางเบา ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น อิ่มน้ำ ลดเลือนริ้วรอย และเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ให้แข็งแรงขึ้น
หากคุณกำลังเผชิญกับปัญหาเหล่านี้อยู่ การเริ่มต้นด้วยการเติมน้ำให้ผิวอย่างตรงจุดและสม่ำเสมอคือกุญแจสำคัญที่ช่วยฟื้นบำรุง และปรับสมดุลความชุ่มชื้นให้กับผิว เพื่อให้ผิวกลับมาเปล่งปลั่ง อ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ
การเติมน้ำให้ผิวอย่างล้ำลึกเป็นสิ่งสำคัญในการแก้ปัญหาผิวขาดน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ที่มีส่วนผสมของ ไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid) ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้อย่างล้ำลึก “เซรั่มไฮยาลูรอนจึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ตอบโจทย์ ด้วยเนื้อสัมผัสที่บางเบา ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น อิ่มน้ำ ลดเลือนริ้วรอย และเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ให้แข็งแรงขึ้น
หากคุณกำลังเผชิญกับปัญหาเหล่านี้อยู่ การเริ่มต้นด้วยการเติมน้ำให้ผิวอย่างตรงจุดและสม่ำเสมอคือกุญแจสำคัญที่ช่วยฟื้นบำรุง และปรับสมดุลความชุ่มชื้นให้กับผิว เพื่อให้ผิวกลับมาเปล่งปลั่ง อ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ